ความแตกต่างของรถยนต์แต่ละ Segment

การแบ่งเซ็กเมนต์ของรถยนต์ (Car Segments) เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อเข้าใจประเภทและขนาดของรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเองมากขึ้น โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่มตามคุณลักษณะต่างๆ แบ่งได้ดังนี้

A-Segment (Mini Cars)

เป็นกลุ่มของรถยนต์ที่มีขนาดเล็กที่สุด โดยมีขนาดของเครื่องยนต์อยู่ 600 – 1,000 ซีซี เน้นความคล่องแคล่วในการขับขี่ เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและแถบชานเมือง เนื่องจากมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด จึงสะดวกต่อการขับขี่ในพื้นที่แคบ ประหยัดน้ำมัน และมีค่าบำรุงรักษา ที่ไม่แพง

ขนาดเล็กที่สุด เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
มีความคล่องตัวสูงและประหยัดน้ำมัน
พื้นที่นั่งและพื้นที่เก็บสัมภาระจำกัด

B-Segment (Subcompact Cars)

ประเภทของรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่า Segment A ซึ่งรถยนต์ในกลุ่มนี้ถือว่าได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีขนาดของรถยนต์ที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ขนาดของเครื่องยนต์อยู่ในระดับกลางที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย

ขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย A-Segment
เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองและระยะกลาง
ราคาประหยัด และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น

C-Segment (Compact Cars)

ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นมากว่ากลุ่ม Segment B นอกจากขนาดของตัวถังที่ใหญ่กว่าแล้วยังมีขนาดของเครื่องยนต์ที่สูงกว่าอีกด้วย โดยขนาดของเครื่องยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 – 2,200 ซีซี รองรับประเภทการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงสามารถใส่สัมภาระได้เยอะขึ้นอีกด้วย

ขนาดกลาง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก
มักมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ครบครัน เช่น ความปลอดภัย, สมรรถนะ
มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ B-Segment

D-Segment (Mid-Size Cars)

จัดเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและมาพร้อมกับความหรูหรามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน รวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่อยู่ในช่วงประมาณหรือมากกว่า 2,500 ซีซี

ขนาดใหญ่ขึ้นจาก C-Segment
มักมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากขึ้น และพื้นที่ภายในกว้างขวาง
มีความสะดวกสบายในการขับขี่ในระยะยาว

E-Segment (Executive Cars)

เป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มาพร้อมเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ความสะดวกสบายภายในถือว่าครบเครื่อง รวมถึงสมรรถนะของพละกำลังเครื่องยนต์ที่แรงขึ้นกว่ากลุ่มอื่น ๆ ด้วยฟังก์ชันที่ครบครันแบบนี้ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น แต่รับรองว่าตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายอย่างแน่นอน.

ขนาดใหญ่ มักเน้นความหรูหราและสมรรถนะ
ภายในรถมีความหรูหรา วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูง
ราคาและค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูง

F-Segment (Luxury Cars)

รถยนต์หรูหราที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและเทคโนโลยีขั้นสูง มักจะมีราคาแพงและถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความพิเศษ

รถยนต์หรูหรา ขนาดใหญ่ที่สุด
มักมีเทคโนโลยีล้ำสมัยและความสะดวกสบายสูงสุด
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหราและความเป็นส่วนตัว

SUV (Sport Utility Vehicle)

SUV (Sport Utility Vehicle) และ Crossover เป็นรถยนต์ที่มีความสามารถในการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง มีพื้นที่ภายในกว้างขวางและสามารถบรรทุกสิ่งของได้มากในประเทศไทยจะแยก SUV และ Crossover ออกเป็นคนกลุ่ม และยังสามารถแบ่งเป็น B-SUV, C-SUV

มีหลายขนาด เช่น Compact SUV, Mid-Size SUV, Full-Size SUV
เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง
สามารถบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระได้มาก และมีสมรรถนะดีในการขับขี่บนพื้นที่ทุรกันดาร

MPV (Multi-Purpose Vehicle)

MPV (Multi-Purpose Vehicle) หรือ Minivan เป็นรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อบรรทุกผู้โดยสารหลายคน มักจะมีที่นั่งหลายแถวและมีพื้นที่ภายในที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ในประเทศจะกลุ่มย่อยลงไปอีกเช่น Mini MPV